วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แพนด้าน้อย ชวนตั้งชื่อ ชิง 1 ล้าน

แพนด้าน้อย ชวนตั้งชื่อ ชิง 1 ล้าน

รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ ตรวจเยี่ยมลูกหมีแพนด้าน้อยอย่างใกล้ชิด

รม ว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบสูติบัตรให้ลูกหมีแพนด้าน้อยเกิดใหม่ที่สวนสัตว์ เชียงใหม่ เผยเตรียมเร่งเจรจาจีนเพื่อขอขยายเวลาให้ครอบครัวแพนด้าทั้ง 3 ตัวอยู่ในประเทศไทยต่อไป คาดไม่เกินต้นเดือน ก.ค.52 มีความคืบหน้า เล็งชวนตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาร่วมไทย-จีน เป็นการถาวร ส่วนการตั้งชื่อลูกแพนด้าจะเปิดโอกาสให้ประชาชนส่งชื่อได้ที่สวนสัตว์ทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศ และผ่านสื่อมวลชน แล้วส่งไปรษณีย์บัตรโหวตให้คะแนน ชิงเงินรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท ด้านเสื้อแดงเชียงใหม่ตามป่วนคณะของรัฐมนตรีทั้งที่สนามบินและหน้าสวนสัตว์

วันนี้ (2 มิ.ย.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางตรวจเยี่ยมลูกแพนด้าเกิดใหม่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่เกิดจาก “หลินฮุ่ย” แม่แพนด้า โดยการผสมเทียมจากน้ำเชื้อของ “ช่วงช่วง” แพนด้าตัวผู้ พร้อมทั้งมอบสูติบัตรให้กับลูกหมีแพนด้าตัวนี้ ซึ่งวันนี้มีอายุครบ 7 วันพอดีและมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี เช่นเดียวกับแม่แพนด้า “หลินฮุ่ย”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การ เกิดของลูกแพนด้าน้อยตัวนี้ที่มีอายุครบ 7 วันพอดีในวันนี้ (2 มิ.ย.) เป็นสิ่งที่สร้างความดีใจให้ทั้งชาวไทยและชาวจีน รวมทั้งชาวต่างชาติที่ชื่นชมแพนด้าเป็นอย่างยิ่ง โดยการมาในครั้งนี้นอกจากการตรวจเยี่ยมลูกแพนด้าแล้วยังเป็นการมาตรวจดู โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทยด้วย ว่ามีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด เพื่อสร้างความร่วมมือกับจีนต่อไปในระยะยาว

สำหรับ การเจรจากับทางจีน เพื่อขอขยายระยะเวลาในการอนุญาตให้แพนด้าทั้ง 3 ตัวอยู่ในประเทศไทยต่อไปนั้น นายสุวิทย์กล่าวว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินการเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่แล้ว จากนั้นจึงจะเป็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งการเจรจาระดับรัฐมนตรีนั้น คาดว่าน่าจะมีขึ้นไม่เกินต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ที่จะมีการเดินทางไปจีนและเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์และวิจัยขยายพันธุ์หมี แพนด้าด้วย

แนวทางในการเจรจาขยายเวลานั้น เบื้องต้นมองว่าอยากจะให้เป็นไปในลักษณะของการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาการ ขยายพันธุ์หมีแพนด้าร่วมไทย-จีน เป็นการถาวรอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จีนสามารถมาทำการศึกษาวิจัยได้ตลอดเวลา ทั้งนี้เชื่อว่าจากการที่โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าประสบความสำเร็จใน การผสมพันธุ์แพนด้า จนให้กำเนิดลูกหมีแพนด้าน้อยมาแล้ว น่าจะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับทางจีนในการพิจารณาการขยายเวลาดัง กล่าวออกไป

“ที่ผ่านมาในส่วนของเราได้มีการ หารือกันแล้ว ถึงการเจรจาขอขยายเวลาให้แพนด้าอยู่ในประเทศไทยต่อไป ซึ่งเมื่อดูจากรายละเอียดเนื้อหาของข้อตกลงที่จีนอนุญาตให้แพนด้ามาอยู่ใน ประเทศไทย ก็พบว่าสามารถที่จะขอเจรจาเพื่อขยายเวลาได้หาก ช่วงช่วง และ หลินฮุ่ย อยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ครบ 10 ปี แล้ว โดยในการเจรจาขอขยายเวลานั้น จะรวมแพนด้าทั้ง 3 ตัว และหากเป็นไปได้ ไม่อยากให้เป็นการขยายเวลาเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่อยากให้เป็นการสร้างความร่วมมือกันในระยะยาว เพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการขยายพันธุ์แพนด้ามากกว่า” นายสุวิทย์ กล่าว

ขณะ ที่ นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงการตั้งชื่อลูกแพนด้าตัวนี้ว่า เบื้องต้นจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถส่งชื่อได้ที่สวนสัตว์ทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งส่งชื่อผ่านไปยังสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์และวิทยุ ภายในวันที่ 12 มิ.ย.52 จากนั้นองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะทำการรวบรวมรายชื่อทั้งหมดมาให้คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ทำการพิจารณาคัดเลือกให้เหลือเพียง 4 ชื่อ ซึ่งผู้ที่เสนอชื่อทั้ง 4 ชื่อนี้ จะได้รับเงินรางวัลรายละ 100,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวชมศูนย์อนุรักษ์และวิจัยขยายพันธุ์หมีแพนด้าที่ ประเทศจีน

ทั้งนี้ เมื่อเหลือเพียง 4 ชื่อที่ได้รับการคัดเลือกแล้วจะเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศ ร่วมกันโหวตผ่านไปรษณียบัตรว่าชื่อใดมีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งชื่อได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์ 1 คัน โดยการประกวดตั้งชื่อลูกหมีแพนด้าตัวนี้ ทางองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งใจที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 12 ส.ค.52 นี้ ด้วย

รายงาน ข่าวแจ้งว่า ในการเดินทางมาตรวจเยี่ยมลูกหมีแพนด้าเกิดใหม่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะในครั้งนี้ ได้มีกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จำนวนหนึ่ง ได้ไปรวมตัวชุมนุมและแสดงปฏิกิริยาต่อต้านด้วยการปราศรัยโจมตี ที่บริเวณหน้าท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวมทั้งยังติดตามไปชุมนุมที่บริเวณหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ด้วย

ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น