วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชา..กระดูกและฟัน

ชา..กระดูกและฟัน

ชาเขียวกับกระดูกและฟัน

ผล การศึกษาในประเทศไต้หวัน พบว่าเนื่องจากในใบชามีสารประกอบของสารฟลูออไรด์และพราวโวนอยด์ซึ่งแร่ธาติ ชนิดนี้มีฤทธิ์คล้ายแอสโตรเจนที่เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน ให้แข็งแรง โดยประโยชน์นี้พบได้ในคนที่ดื่มชาดำ ชาเขียวหรือชาอู่หลงเฉลี่ยวันละ 2 แก้ว เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปี ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชา เพราะ เป็นที่ทราบกันดีกว่า ภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกผุในหญิงวัยหมดประจำเดือนเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก ประมาณกันว่าราวๆ ครึ่งหนึ่งของหญิงอเมริกันอายุ 50 ปีขึ้นไปมีปัญหาจากโรคกระดูกผุ

การเกิดฟันผุเป็นผลมาจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus Mutans ในช่องปาก ทำปฏิกิริยากับน้ำตาลได้เป็นสารกลูแคน มีลักษณะเหนียวข้น ไม่ละลายน้ำ เคลือบอยู่ที่ฟันแล้วเจ้าเชื้อจุลินทรีย์ก็จะไช้เจ้ากลูแคนนี้เป็นอาหารใน ระหว่างกระบวนการเมตาโบลิซึมของมันเกิดการสร้างกรดซึ่งไปทำลายสารเคลือบฟัน เป็นสาเหตุทำให้ฟันผุ จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่า สารเคทิซิน สามารถยับยั้งกระบวนการผลิตกลูแคนของเชื้อ S.Mutans ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเราดื่มชาเขียวหลังมื้ออาหารสามารถป้องกันโรคฟันผุได้ นัก วิจัยในศูนย์ทันตกรรมเฟอร์ซีธ บอสตัน ยังได้แนะนำว่า การดื่มชาตอนเช้าช่วยป้องกันฟันผุได้ โดยถ้าคุณแช่ถุงชาไว้นาน 3 นาทีก่อนดื่ม ชาจะสามารถยับยั้งช่วยแบคทีเรียซึ่งทำให้ฟันผุได้ถึงร้อยละ 95 จะเห็นได้ว่า การดื่มชาจึงมีส่วนช่วยในการป้องกันฟันผุได้

สวยได้ด้วย...ใบชา

สูตรความงามตามธรรมชาติจากชา

ปัจจุบัน การแช่ชา เป็นสิ่งที่ไม่เกินกว่าความจริงและประหยัดเพราะทำได้เองจากที่บ้าน สามารถลองทำได้เองเพื่อบรรเทาบาดแผลและรอยถลอกเล็กๆ รักษาแดดเผา ทำให้ดวงตาที่อ่อนล้าและบวมสดชื่นขึ้น รวมถึงการแช่เท้าที่เหน็ดเหนื่อย ตำรับดังกล่าวคือการกลั่นใบชาดำหรือชาเขียวที่ไม่มีกลิ่น ½ ถ้วย ในน้ำต้มเดือด 1 ลิตรอย่างน้อย 10 นาที จากนั้นกรองใบชาพักทิ้งไว้เพื่อให้ชาเย็นลงก่อน แช่ในตู้เย็น สามารถเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 10 วัน

สำหรับบาดแผลและรอยถลอก

ใช้ ชาเย็นกลั่นชุบแผ่นสำลีบริสุทธิ์วางบนรอยแผลหรือรอยถลอก โดยวางแผ่นสำลีบริเวณที่เป็นอย่างน้อย 5 นาที ทำซ้ำอีกครั้งและอย่าล้างออก สามารถทำซ้ำ 4-5 ครั้งต่อวัน

แดดเผา

ใช้ ผ้าฝ้าย 1 ชิ่นที่แช่ชาเย็นกลั่นจนชุ่มในบริเวณที่ถูกแดดเผา ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หรือจนกระทั่งบริเวณที่ไหม้เกรียมเริ่มเย็นลง สามารถทำซ้ำๆ 5 ครั้งต่อวัน

สำหรับดวงตาที่อ่อนล้าและบวมเพราะอดนอน

ชุบ แผ่นสำลีในชาเย็นกลั่นวางบนเปลือกตา แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีหรืออาจนำถุงชาที่ใช้แล้วแช่ในตู้เย็นและวางบนเปลือกตาก็ได้ผลดีเช่นกัน หรือเลือกถุงชาที่เราได้คัดและบรรจุสมุนไพรคาโมมายล์ Eye Love Tea Pillow แช่ ในน้ำอุ่นสักครู่ บีบน้ำพอหมาดแล้วนำมาปิดบนเปลือกตา ผ่อนคลายร่างกายและสูดกลิ่นหอมของดอกคาโมมายล์ ลองนึกดูว่า คุณแช่ตัวในน้ำอุ่น ในอ่างอาบน้ำของคุณเอง พักสายตา ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ แค่นี้คุณก็ได้ทำสปาในบ้านด้วยตัวเอง

สำหรับเท้าที่เมื่อยล้า

แช่ เท้าในชาเย็นกลั่นประมาณ 15 นาที เพื่อบรรเทาอาการเมื่อยล้าหลังจากการยืน เดินหรือวิ่งมาตลอดทั้งวัน คุณอาจเลือกชาสมุนไพรอื่นเพื่อกลิ่นหอมพิเศษ เช่นชาเปปเปอร์มินท์ ชาคาโมมายล์ ชาลาเวนเดอร์

สำหรับใบหน้า

ผสม แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา กับชาคาโมมายล์เย็นเพื่อการขัดถูอย่างอ่อนโยน ปล่อยให้แห้งและค่อยๆ เช็ดออก แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวแพ้ง่าย ทำแผ่นแป้งเปียกโดยใช้ชาคาโมมายล์และนมผงทาผิว จากนั้นปล่อยให้แห้งก่อนเช็ดออกและล้างน้ำ

สำหรับรักษาเส้นผม

อุ่นน้ำมันมะกอก ½ ถ้วย (อย่าให้เดือด) ผสมลาเวนเดอร์สดบด 2 ช้อนชาและถุงชาเปปเปอร์มินท์แห้ง 2 ถุงในกระทะเล็กๆ นวดส่วนผสมทั่วหนังศรีษะที่เปียกชื้น คลุมผมด้วยหมวกอาบน้ำและอบท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลา 10-20 นาที สระผมด้วยแชมพูและล้างออก ทำซ้ำเดือนละครั้งเพื่อการบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง

สำหรับย้อมสีผมธรรมชาติ

เทชาดำเข้มข้นบนผม ขยี้ให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาทีและล้างออก คุณจะได้สีผมน้ำตาลเข้มสวยแบบธรรมชาติได้ชั่วคราว

โทนเนอร์ชาเขียว

คุณสมบัติ ของชาเขียวที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ต้อสู้กับความแก่ ชาเขียวสามารถทำให้ผิวกระชับและผ่อนคลายได้ ลองใช้โทนเนอร์นี้ก่อนทาครีมบำรุงผิว ส่วนผสมง่ายๆคือ น้ำสะอาด ½ ถ้วย และใบชาเขียว 1 ช้อนชาหรือชาซอง 1 ถุง ต้มน้ำ ใส่ใบชาหรือชาซองในแก้ว เทน้ำร้อนลงไปในแก้วที่เตรียมไว้ แช่ทิ้งไว้ 2-3 นาที กรองชาเขียวใส่ขวดและปล่อยให้เย็น ใช้สำลีก้อนชุบชาเขียวที่เย็นแล้วมาทาบนผิวหน้า ไม่จำเป็นต้องล้างออก ตามด้วยครีมบำรุงผิวตามปรกติ

สำหรับการบำรุงริมฝีปาก

ละลาย ถุงชาดำด้วยน้ำอุ่น กดเหนือริมฝีปากที่สะอาดเป็นเวลา 5 นาที ทำซ้ำถ้าต้องการ ชาดำมีกรดแทนนินสูง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ริมฝีปากเรียบเนียนสะอาดหมดจด

สำหรับบรรเทาอาการบวมแดงของสิว

กรดแทนนินในใบชา ช่วยดูดซับน้ำมันบนหัวสิวได้ ละลายถุงชาในน้ำอุ่นและกดบนบริเวณที่เป็นสิว 5 นาที แล้วล้างออก

ความรู้เกี่ยวกับชาดำ Why they called Black Tea?

ชาดำชื่อดัง

มีชาชื่อดังจำนวนมากที่เกิดจากการนำชาหลากชนิดจากหลายที่มีผสมกันเพื่อให้ได้ชาที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว ชาลักษณะนี้เป็นที่นิยมกันมากในโลกโดยเฉพาะในอังกฤษ

English Breakfast

ต้นแบบของชาผสมที่นิยมกันและถูกพัฒนามากว่า 100 ปี โดยผู้ชำนาญการชาวสก็อตนาม Drysdale แห่ง Edinburgh ซึ่งถูกเรียกชื่อในทางการค้าว่า ‘Breakfast Tea’ ชานี้เป็นที่นิยมในอังกฤษ เนื่องจากความหลงใหลของราชินีวิกตอเรียในวัฒนธรรมของชาวสก็อต ที่ท่านได้ไปพำนักที่บ้านพักฤดูร้อน ในประเทศสก็อตแลนด์ แต่ต่อมาร้านขายชาในลอนดอนก็เปลี่ยนชื่อมันและวางตลาดในชื่อ ‘English Breakfast’

ชาชนิดนี้คือชาดำชั้นดีที่มาจากอัสสัมและซีลอน และอาจประกอบด้วยชาคีนัมบางส่วน ชาชนิดนี้ทำให้ชวนหลงใหลให้นึกถึง ขนมปังร้อนๆ จากเตาอบในบรรยากาศตอนเช้า

Irish Breakfast

ชาวไอริชเป็นนักดื่มชาตัวยง พวกเขาดื่มชาที่แก่มากๆ จนกระทั่งมีสำนวนเกี่ยวกับชาสำหรับชาวไอริชว่า ชาที่พอเหมาะควรจะแก่พอที่จะทำให้หนูวิ่งบนชาได้ ด้วยแนวคิดแบบนี้ ชาวไอริชเชื่อว่ามีชา 3 ชนิดที่เหมาะจะดื่ม อย่างแรกที่ดีที่สุดคือชาในจีนดื่มโดยชาวจีน ดีเป็นลำดับที่สองคือที่ส่งตรงมายังไอร์แลนด์ และที่แย่ที่สุดเหมาะที่จะส่งให้พวกอังกฤษดื่ม ที่ได้ชื่อว่า Irish Breakfast เพราะว่ากลิ่นที่แรงซึ่งจะถูกดื่มในตอนเช้าเท่านั้น (ยกเว้นสำหรับชาวไอริชที่ดื่มทั้งวัน) โดยทั่วไปชาแบบนี้ถูกผสมจากพื้นฐานของชาอัสสัม เพราะ รสชาติที่หนักแน่นจึงมักถูกเสิร์ฟพร้อมกับน้ำตาลเป็นจำนวนมากและนม (ต้องเป็นนม ไม่ใช่ครีมที่ถูกเสิร์ฟพร้อมกับชา ครีมหนักเกินไปสำหรับชา ครีมเหมาะสำหรับกาแฟ นมจะถูกเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้อง ไม่ใช่นมเย็นเพราะมันจะทำให้ชาเย็นเร็วเกินไป)

Afternoon tea

ชาชนิดนี้เกิดจากการผสมชาดาร์จีลิงและชาซีลอนที่ปลูกในพื้นที่สูงเพื่อสร้างเป็นชาที่สดชื่นและบางเบา ชาชนิดนี้เข้าได้ดีกับแซนด์วิช แตงกวา และเค้กผลไม้ ปัจจัยสำคัญของชาชนิดนี้ไม่ได้อยู่ที่ความแกร่งหรือหนักแน่นและอยู่ที่กลิ่น

House Blend

ในสถานที่ขายชาบางแห่งมีสูตรของชาเฉพาะตัว ซึ่งได้มาจากการผสมชาหลากชนิด บางทีอาจผสมชาถึง 15-40 ชนิดเข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้เกิดชาที่มีลักษณะพิเศษทั้งสีและกลิ่น

ระหว่าง ปีเก็บเกี่ยวซึ่งมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันไปทุกปีซึ่งมีผลต่อคุณภาพใบชา ผู้ผสมจะต้องค้นหาชาที่ผลิตกลิ่นและคุณลักษณะที่ต้องการ ซึ่งพวกเขาจะต้องทดสอบรสชาติชาระหว่าง 200 ถึง 1,000 ชนิดต่อวัน และสร้างตำรับชาที่ทำให้ทุกคนได้สนุกกับชาที่เลิศรส

ไขปริศนา อักษรตัว E บนฉลากอเมริกันวิสกี้

ไขปริศนา อักษรตัว E บนฉลากอเมริกันวิสกี้

เมื่อกล่าวถึงสุรานามว่า"วิสกี้" คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิสกี้คือสุราที่ผลิตจากธัญพืช มีผลิตกันเกือบทุกแห่งทั่วโลก และแต่ละแห่งก็จะใช้วัตถุดิบในการผลิตแตกต่างกันไป
แต่วิสกี้ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นวิสกี้ที่ดีที่สุดในโลกนั้น มีมาจาก4ประเทศคือ

1. Scotch whisky
2. Irish whiskey
3.American whiskey
4. Canadian whisky

ซึ่งหากใครตาดีสักนิดจะเห็นว่า การเขียนคำว่าวิสกี้ในภาษาอังกฤษนั้นมี2แบบคือ whiskeyและ whisky ใช่ครับ บางขวดมีตัว E แต่บางขวดกลับไม่มี สก๊อตวิสกี้เป็นวิสกี้ที่ผ่านมือผ่านตาคนไทยมากที่สุด เมื่อเราดูข้างๆขวดของสก๊อตวิสกี้ Scotch whisky ก็จะไม่ปรากฏอักษรตัว E ในคำ ว่าวิสกี้ ตัวE ที่ว่านี้ นอกจากสก๊อตวิสกี้แล้ว แคนาเดี้ยนวิสกี้ Canadian whisky ก็จะไม่มีตัวEเช่นกัน แต่จะไปปรากฏอยู่ใน ไอริชวิสกี้ 2. Irish whisk(e)y และอเมริกันวิสกี้American whisk(e)y เจ้าตัวEเจ้าปัญหานี่แหละครับ ที่สร้างความสงสัยให้กับนักดื่มเป็นเวลาช้านาน
อเมริกันวิสกี้ ก็เป็นวิสกี้อีกประเภทหนึ่งที่มีอักษรตัว Eอยู่ ในคำว่า"วิสกี้" เป็นที่รับรู้กัน ไปเห็นวิสกี้จากอเมริกาที่ไหนก็จะเห็นตัวEอยู่บนฉลากแทบทุกขวด
แต่หาก เราได้มีโอกาสได้ดื่มอเมริกันวิสกี้หลากหลายยี่ห้อมากขึ้นจะพบว่า อเมริกันวิสกี้บางยี่ห้อ ก็จะเขียนคำว่าวิสกี้แบบไม่มีตัวE เช่นเดียวกันกับ สก๊อตวิสกี้ แน่นอนล่ะ มันย่อมสร้างความสงสัยให้กับเขาผู้นั้นโดยแน่แท้ เพราะส่วนมาก อเมริกันวิสกี้ ทั้งเทนเนสซี และเบอร์เบิ้น ต่างมีตัวEพ่วงมาด้วยแทบทุกขวด
หาก จะย้อนอดีตไปนับตั้งแต่ชาวตะวันตกเข้ามาบุกเบิกแผ่นดินอเมริกา อเมริกันวิสกี้ก็ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมๆกับการสร้างชาติของชาวอเมริกันเลยที เดียว ผู้ที่เข้ามาบุกเบิกประเทศสหรัฐอเมริกานั้น มีหลายร้อยหลายเผ่าพันธุ์ จากแทบทุกมุมโลก แต่ชนชาติที่นำภูมิปัญญาการต้มกลั่นเหล้าวิสกี้มายังดินแดนแถบนี้ ก็คือชาวสก๊อตส์และชาวไอริช ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการผลิตสุราธัญพืชชั้นยอดที่เรียกขานกันมาช้านาน ว่า"วิสกี้"นั่นเอง
จริงๆแล้วอเมริกันวิสกี้กำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ เพนซิลวาเนีย อันเป็นดินแดนเกษตรกรรม อันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร และทรัพยากรธรรมชาติ ผู้อพยพชาวสก๊อตส์และไอริช สามารถผลิตวิสกี้ได้ตามใจปรารถนา ก็เพราะทรัพยากรอันมีอยู่อย่างเหลือเฟือนั่นเอง แต่ภายหลัง เพนซิลวาเนียประสบภัยธรรมชาติ เกิดสภาวะแห้งแล้ง ประชาชนเกิดความอดอยาก ผลผลิตทางการเกษตรเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ประกอบกับมีการปรับภาษีสุราใน เพนซิลวาเนียอีกด้วย ผู้คนส่วนมากไม่พอใจกฏหมายการปรับภาษีสุราครั้งนี้ ประชาชนจึงก่อการจลาจล และเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่ ผู้อพยพชาวสก๊อตส์ ไอริช จึงต้ดสินใจหลบหนีความวุ่นวายไปสู่ดินแดนใหม่ที่อุดมสมบูรณ์กว่า ซึ่งพร้อมมูลไปด้วยองค์ประกอบสำคัญในการผลิตวิสกี้ ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติที่สะอาด ต้นโอ๊คขนาดใหญ่อายุนับ100ปี และแหล่งเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ชั้นยอด ในการทำวิสกี้ นั่นก็ คือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศ อันเป็นที่ตั้งของ มลรัฐเคนทักกี้ และเทนเนสซี่ 2แหล่งผลิตอเมริกันวิสกี้ชื่อก้องโลก และอเมริกันวิสกี้ก็ได้เปิดตัวเป็นทางการเมื่อช่วง ศตวรรษที่ 18 นั่นเอง

ชาวสก๊อตส์ และไอริช อพยพมาทวีปอเมริกาเหนือโดยทางเรือ โดยจะกระจัดกระจายไปยังดินแดนต่างๆทั่วอเมริกาเหนือ เมื่อถึงแผ่นดินใหญ่ ผู้อพยพขึ้นฝั่งอเมริกาส่วนมาก เป็นชาวไอริช ส่วนน้อยที่เหลือเป็นชาวชาวสก๊อตส์ ส่วนชาวสก๊อตส์ขึ้นเหนือไปแคนาดาแทน และยังมีชาวไอริชบางส่วนไปอยู่ฝั่งแคนาดาเช่นกัน คนต่างชาติหลายคนอาจจะไม่รู้ แต่สำหรับแวดวงผู้ผลิตวิสกี้ทั้งในอเมริกาและแคนาดา เขาต่างรู้กันดีว่า วิสกี้ตระกูลนี้ยี่ห้อนี้ มีรากฐานมาจากไหน สก๊อตส์แลนด์หรือไอร์แลนด์ นี่แหละคือเหตุผลที่ทำอเมริกันวิสกี้บางยี่ห้อไม่มีตัวEในคำว่าวิสกี้ อเมริกันวิสกี้ที่ไม่เขียนตัวEแบบเดียวกับสก๊อตวิสกี้นั้น มีทั้งเบอร์เบิ้นและเทนเนสซี่ได้แก่ George Dickel. Tennessee Whisky หรือ Make Mark Bourbon Whisky ซึ่งก็เขียนแตกต่างจากอเมริกันวิสกี้ส่วนมาก ยกตัวอย่างเช่น Jack Daniel's Tennessee Whisk(e)y jim Beam Bourbon Whisk(e)y หรือ Wild Turkey Bourbon Whisk(e)yเป็นต้น
หากวิสกี้ อเมริกันขวดไหนมาจากครอบครัวชาวของชาวสก๊อตส์ หรือไอริช ก็ให้ดูที่ตัวEบนฉลากนั้นแหละครับ หากมีตัวEบนฉลาก ขอให้รับรู้ว่า เขามากจากตระกูลชาวไอริช แต่หากไม่มีตัวEห้อยท้ายคำว่าวิสกี้ ก็เป็นการบอกให้เราทราบว่า วิสกี้ขวดนี้ มาจากครอบครัวชาวสก๊อตส์ เพื่อให้เกียรติแผ่นดินของบรรพบุรุษที่เขาจากมานั่นเองครับ

คำคุณศัพท์เกี่ยวกับชนชาติต่าง ๆ

คำคุณศัพท์เกี่ยวกับชนชาติต่าง ๆ ให้ทับศัพท์ในรูปคำนามที่เป็นชื่อประเทศ เช่น
  • Swedish people = คนสวีเดน
  • Hungarian dance = ระบำฮังการี

ยกเว้นชื่อที่เคยใช้มานานแล้ว ได้แก่

  • ประเทศเยอรมนีใช้ว่า …เยอรมัน เช่น ภาษาเยอรมัน
  • ประเทศกรีซ ใช้ว่า …กรีก เช่น เรือกรีก
  • ประเทศไอร์แลนด์ ใช้ว่า …ไอริช เช่น ชาวไอริช
  • ประเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้ว่า …ฮอลันดา เช่น ชาวฮอลันดา หรือ …ดัตช์ เช่น ภาษาดัตช์
  • ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใช้ว่า …สวิส เช่น ผ้าสวิส
  • สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ใช้ว่า …อังกฤษ เช่น คนอังกฤษ
  • สหรัฐอเมริกา ใช้ว่า …อเมริกัน เช่น รถอเมริกัน

สำหรับสหภาพโซเวียต ซึ่งในภาษาอังกฤษใช้คำคุณศัพท์ ๒ คำ คือ Soviet… และ Russian… ใช้ว่า …โซเวียต และ …รัสเซีย เช่น

  • Soviet Style (of architecture) = (สถาปัตยกรรม) แบบโซเวียต
  • Russian food = อาหารรัสเซีย

ชื่อภาษา/ระบบการเขียน

  • Afrikaans = ภาษาแอฟริกา
  • Albanian = ภาษาแอลเบเนีย
  • Arabic = ภาษาอารบิก
  • Amharic = ภาษาอัมฮาริก
  • Armenian = ภาษาอาร์เมเนีย
  • Assamese = ภาษาอัสสมี
  • Azerbaijani = ภาษาอาเซอร์ไบจาน
  • Baltic = ภาษาบอลติก
  • Basque = ภาษาแบ็ซค์
  • Bengali = ภาษาเบ็งกาลี
  • Bihari = ภาษาพิหาร
  • Bosnian = ภาษาบอสเนีย
  • Bulgarian = ภาษาบัลแกเรีย
  • Burmese = ภาษาพม่า
  • Catalan = ภาษาคาตะลาน
  • Celtic = ภาษาเซลติก
  • Chinese Simplified = ภาษาจีนตัวย่อ *(หมายถึง ตัวอักษรที่ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่, ไม่เกี่ยวกับภาษาพูด)
  • Chinese Traditional = ภาษาจีนตัวเต็ม *(หมายถึง ตัวอักษรที่ใช้แพร่หลายในไต้หวันและฮ่องกง, ไม่เกี่ยวกับภาษาพูด)
  • Chinese, Cantonese (Yue) = ภาษาจีนกวางตุ้ง *(ภาษาพูด ใช้มากในฮ่องกง)
  • Chinese, Mandarin = ภาษาจีนกลาง *(ภาษาพูด)
  • Chinese, Standard Mandarin = ภาษาจีนกลางมาตรฐาน *(ภาษาพูด)
  • Cypriot = ซิพริออต
  • Czech = ภาษาเช็ก
  • Danish = ภาษาเดนมาร์ก
  • Dutch (Netherlands) = ภาษาดัตช์
  • English = ภาษาอังกฤษ
  • Esperanto =
  • Estonian = ภาษาเอสโตเนีย
  • Faroese = ภาษาแฟโร
  • Farsi = ภาษาฟาร์ซี ภาษาเปอร์เซีย
  • French = ภาษาฝรั่งเศส
  • Gaelic = *(อาจหมายถึง Irish Gaelic หรือ Scottish Gaelic ก็ได้. ดู: Irish, Scottish Gaelic)
  • Galician = ภาษากาลิเชีย
  • Georgian = ภาษาจอร์เจีย
  • German = ภาษาเยอรมัน
  • Greek = ภาษากรีก
  • Gujarati = ภาษาคุชราตี
  • Gurmukhi = ภาษาคุรมุขี
  • Hebrew = ภาษาฮีบรู
  • Hebrew Visual = ภาษาฮีบรู (เขียนซ้ายไปขวา)
  • Hindi = ภาษาฮินดี
  • Hispanic =
  • Hungarian = ภาษาฮังการี
  • Indonesian = ภาษาอินโดนีเซีย
  • Interlingua = ภาษานานาชาติ
  • Irish (Irish Gaelic) = ภาษาไอริช (Irish Gaelic)
  • Italian = ภาษาอิตาลี
  • Japanese = ภาษาญี่ปุ่น
  • Javanese = ภาษาชวา
  • Kannada = ภาษากัณณาท
  • Kashmiri = ภาษากัศมีรี
  • Klingon = ภาษาคลิงออน
  • Khmer = ภาษาเขมร
  • Korean = ภาษาเกาหลี
  • Lao = ภาษาลาว
  • Latin = ภาษาละติน
  • Latvian = ภาษาลัตเวีย
  • Lithuanian = ภาษาลิทัวเนีย
  • Macedonian = ภาษามาซิโดเนีย
  • Maithili = ภาษาไมถิลี
  • Malay = ภาษามลายู
  • Malayalam = ภาษามลยาฬัม
  • Mongolian = ภาษามองโกล
  • Marathi = ภาษามาราฐี
  • Nepali = ภาษาเนปาล
  • Nordic = ภาษานอร์ดิก
  • Norwegian = ภาษานอร์เวย์
  • Occitan = ภาษาออกซิตัน
  • Oriya = ภาษาโอริยา
  • Pashto = ภาษาพาชตู
  • Phags-pa = ภาษาผัคสปะ
  • Polish = ภาษาโปแลนด์
  • Portuguese (Brazil) = ภาษาโปรตุเกส (บราซิล)
  • Portuguese (Portugal) = ภาษาโปรตุเกส (โปรตุเกส)
  • Punjabi = ภาษาปัญจาบี
  • Romance = ภาษาโรมานซ์
  • Russian = ภาษารัสเซีย
  • Sanskrit = ภาษาสันสกฤต
  • Scots = (คนละภาษากับ Scottish Gaelic, Scottish English)
  • Scottish Gaelic = (Gaelic แบบที่พูดในสกอตแลนด์)
  • Serbian = ภาษาเซอร์เบีย
  • Sindhi = ภาษาสินธี
  • Slovak = ภาษาสโลวะเกีย
  • Slovakian = ภาษาสโลวาเกีย
  • Slovenian = ภาษาสโลวีเนีย
  • Spanish = ภาษาสเปน
  • Sundanese = ภาษาซุนดา
  • Swahili = ภาษาสวาฮิลี
  • Swedish = ภาษาสวีเดน
  • Sylheti = ภาษาสิเลฏี
  • Syriac = ภาษาซีรีอัก
  • Tagalog = ภาษาตากาล็อก
  • Tamil = ภาษาทมิฬ
  • Telugu = ภาษาเตลุคู
  • Tibetan = ภาษาทิเบต
  • Tigrinya = ภาษาตีกรินยา
  • Turkish = ภาษาตุรกี
  • Ukrainian = ภาษายูเครน
  • Urdu = ภาษาอูรดู
  • Uzbek = ภาษาอุซเบกิสถาน
  • Vietnamese = ภาษาเวียดนาม
  • Welsh = ภาษาชาวเวลส์
  • Yi = ภาษาอี้
  • Zulu = ภาษาซูลู

ชื่อตัวเขียน/ระบบตัวเขียน

  • Cyrillic = ซีริลลิก
  • Gallic =
  • Han = ฮั่น
  • Hangul = ฮันกึล
  • Hanja =
  • Kanji = คันจิ
  • Hiragana = ฮิระงะนะ
  • Katakana = คะตะกะนะ
  • Mincho =
  • Pinyin = พินอิน
  • Romaji = โรมะจิ
  • Syloti Nagari = สิลอฏีนาครี
  • Umlaut =

เปิดบ้านชาวไอริช...ผู้หลงรักทะเลหัวหิน

เปิดบ้านชาวไอริช...ผู้หลงรักทะเลหัวหิน


หากการ หาที่พำนักของใครสักคนจะเป็น สถานที่แห่งไหนในบ้านเมืองใดสักแห่ง นั่นคงเป็นการตัดสินใจแล้วว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะขอพักพิง อิงแอบไปกับทุกชีวิตรายรอบ และวัฒนธรรมของที่นั่นด้วยความเต็มใจ

โจเอล เฟลด์แมน (Mr.Joel Feldman) เป็นชาวไอริชที่สารภาพว่า เขารักเมืองไทยและอยากใช้ชีวิตที่นี่ต่อไปเรื่อยๆ รักแรกพบที่มีต่อบ้านเมืองนี้ เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปี ก่อน หลังจากปลูกความรักขึ้นทีละนิด จากการท่องเที่ยวในบ้านเราอยู่หลายหน และมักจะกลับมาเยือนอีกบ่อยครั้ง เพราะติดใจในความงามทางธรรมชาติ ความมีอัธยาศัยดีของคนไทย รสชาติอาหาร และการต้อนรับที่อบอุ่น

ก่อนจะย้ายมาลงหลักปักฐานราวปี 2548 เมื่อถึงคราวที่คนๆ เดียวกันต้องนั่งเก้าอี้ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อคานโด จำกัด ทำธุรกิจอสังหาฯ ที่เขาภาคภูมิใจ บริหารสินทรัพย์ของกองทุนรวม Lizmans Property Fund ดูแลเอฟพี คอนโดมีเนียม ซ. ลาดพร้าว 49 และโครงการอื่นๆ เต็มตัว กลายเป็นจุดเปลี่ยน จากนักท่องเที่ยวสู่การเป็นผู้อยู่อาศัย(กึ่ง)ถาวร ตราบที่เขายังสามารถสร้างงานและมอบสิ่งดีๆ ให้สังคมนี้ ไปพร้อมๆ กับการทำธุรกิจที่ถนัด ด้วยความตั้งใจและเพียรพยายามมาตั้งแต่อายุยังน้อย

โจเอลเล่าว่า ธุรกิจอสังหาฯ ไม่ว่าใครก็ทำได้ ตัวเขาเองก็เริ่มจากศูนย์ และมองว่า...คุณวุฒิ ทางการศึกษาอาจยังไม่จำเป็นเท่า... การทำความรู้จักกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งถือเป็นหัวใจ ถ้าสามารถรู้ได้ถึงความต้องการที่แท้จริง พยายามหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุด และตามมาด้วยความซื่อสัตย์กับลูกค้า จนเกิดความเชื่อใจด้วยแล้ว แม้การซื้อ-ขายจะไม่เกิดขึ้นในคราวแรก แต่ก็มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะกลับมาซื้อกับเราอีกในไม่ช้า หากเราตอบโจทย์ได้ตรงและให้ในสิ่งที่ดีที่สุด

ณ เรือนไม้สีเหลือง(อบอุ่น) โครงสร้างภายนอกยังคงสภาพเดิมไว้ทุกประการแห่งนี้ เขาบอกว่า เหมือนฝันที่เป็นจริง อยากมีบ้านพักตากอากาศริมหาดหัวหินมานานแล้ว ถือเป็นของขวัญให้กับชีวิตที่พิเศษมาก ทั้ง บ้านเก่า ของเก่า ติดทะเล ใกล้เขตพื้นที่พระราชฐาน เงียบสงบและปลอดภัย

ทั้งหมดนี้ คงไม่ต่างกันนักกับเจ้าตัว ผู้หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของหัวหิน และไขกุญแจความต้องการของตัวเองออกอย่างจริงใจ

เหตุ ลงตัว...ที่มาของช่วงเวลา กว่าครึ่งค่อนสัปดาห์ที่เขาเลือกใช้ชีวิตในช่วงวันพักผ่อน ณ เรือนจุลินทร์ บ้านพักตากอากาศยุคเก่าแห่งชายหาดหัวหิน ที่เจ้าของยินดีให้ฝรั่งเช่าในราคาที่พอสู้ไหว แต่มีข้อแม้ว่า.. ต้องเช่าเพื่อพักอาศัยเท่านั้น


แม้วันแรกที่ย้ายเข้ามา สภาพบ้านจะเก่ามาก แทบอยู่ไม่ได้ แต่เมื่อเทความเอาใจใส่ ผสมไอเดียการตกแต่งตามชอบใจ(สไตล์ไทยผสมยุโรป) ลงไป ในทันทีที่ย้ายเข้ามาอยู่ เลือกใช้สีโทนร้อนช่วยเพิ่มความสดใส ดังจะเห็นได้จากสีของตัวบ้าน ภาพศิลปะ และชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมาประดับตกแต่งบ้านหลังนี้ ก็สร้างความมีชีวิตชีวาในช่วงวันหยุดได้ไม่แพ้กัน

ใช่ เพียงแค่ตัวบ้าน หรือการนั่งปล่อยอารมณ์ไปกับสายลมโชยและเสียงคลื่นกระทบฝั่งกับหนังสือดีๆ สักเล่มเท่านั้น แต่ทุกชีวิตในรอบรั้วที่อยู่ร่วมกันด้วยความเป็นกันเอง ก็เป็นส่วนเติมเต็มให้วันพักผ่อนของชาวไอริชผู้นี้ครบสูตรยิ่งขึ้น

นอก จาก แม่บ้านและพนักงานที่ร้าน Chinawhite บาร์เล็กๆ ในตัวเมืองหัวหิน ที่เขาเป็นเจ้าของแล้ว เจ้าตูบทั้งสาม Digby,Ben และ Storm ก็ยังเป็นเพื่อนคลายเหงายามที่ต้องอยู่ห่างครอบครัว ซึ่งโจเอล ยอมรับว่า แม้ตัวเขาเองจะเป็นไอริช แต่ตกหลุมรักเมืองไทยเข้าอย่างจัง คิดเสมอว่าที่นี่เป็นบ้าน และตั้งใจว่า..ชีวิตหลังเกษียณจะขอพำนักอยู่ในเมืองไทยต่อไป

"อยากเป็นคนไทยนะ แต่ความจริงแล้วเราก็รู้ว่า... เราไม่ใช่ ฉนั้นยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นจะดีกว่า และ อย่า! พยายามเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง มันคงตลก แต่ในฐานะผู้มาพำนักในบ้านเมือง ที่ๆ เราก็หวังเสมอว่าจะได้อยู่ไปนานๆ ก็ถือเป็นความจำเป็นอย่างมาก... ที่ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับวัฒนธรรมและสังคมที่เรามาอาศัยอยู่ได้อย่างกลม กลืน และสิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ มิตรภาพกับความจริงใจที่ต้องมีให้กับทุกคน ณ ที่แห่งนั้น"

”Irish Traditional Music, Song and Dance”

ดนตรีไอริชเป็นหนึ่งในดนตรีพื้นบ้านไม่กี่ชนิดที่มีเสน่ห์จับใจผู้คนไป ทั่วโลก นอกจากความงดงามอย่างไม่ต้องสงสัยของท่วงทำนองและลีลาการแสดงแล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกประการของดนตรีพื้นบ้านไอริชก็คือบทบาททางสังคมและการ เมือง ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ชาวไอริชใช้ดนตรีของตัวเองระบายความรู้สึกอัดอั้น แค้นเคือง และปลุกเร้าการต่อสู้เพื่อขับไล่กองทัพอังกฤษที่บุกเข้ายึดครอง หรือช่วงที่ชาวไอริชต้องเดินทางจากบ้านเกิดไปบุกเบิกโลกใหม่ในประเทศสหรัฐ อเมริกา ดนตรีและการเต้นรำเป็นเพียงไม่กี่สิ่งที่ช่วยยึดเหนี่ยวและสร้างความภาคภูมิ ใจในความเป็นไอริชท่ามกลางสังคมที่หลากล้นไปด้วยผู้คนต่างเผ่าพันธุ์จากทั่ว โลกที่เดินทางมาสร้างชีวิตใหม่เช่นเดียวกัน ในช่วงเวลานี้เองที่ทำให้ดนตรีไอริชกลายเป็นรากเหง้าสำคัญของดนตรีพื้น บ้านอเมริกัน ซึ่งต่อมาไม่นานดนตรีพื้นบ้านอเมริกันหรือดนตรีโฟล์คจากการขับขานของบ๊อบ ดีแลน หรือโจแอน เบซ ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและการต่อสู้ของขบวนการนักศึกษาหนุ่มสาว ทั้งหลายทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ 1960s ซึ่งในกรณีของประเทศไทยก็ได้ทำให้ดนตรีโฟล์คกลายเป็น “ภาพตัวแทน” ที่ทรงพลังที่สุดของศิลปะเพื่อการเมืองในความคิดของศิลปินและนักเคลื่อนไหว ชาวไทยนับตั้งแต่อดีตนั้นเป็นต้นมา
นี่จึงเป็นโอกาสอันดียิ่งที่วงวิชาการ นักเคลื่อนไหว หรือแม้แต่กระทั่งคนไทยทั่วไปที่รักในเสียงดนตรี จะได้มีโอกาสสัมผัสกับรากเหง้าดนตรีโฟล์คแท้ๆ จากนักเต้นและนักดนตรีพื้นบ้านไอริชฝีมือเยี่ยมที่สุดกลุ่มหนึ่งที่รวมตัว เฉพาะกิจเพื่อการแสดงในงานประชุมครั้งนี้เพียงรอบเดียวเท่านั้น ได้แก่ Mick Moloney (เทเนอร์แบนโจ, แมนโดลิน, กีตาร์), Athena Tergis (ไวโอลิน), John Murphy (ปี่อุยลีน — ปี่ถุงลมคล้ายปี่สก๊อตที่เป่ายากและซับซ้อนมากที่สุด), Frank Crocker (กลองบ๊อดดราน — เครื่องดนตรีโบราณที่สุดของชาวไอริช) และ Niall O’Leary (แชมป์โลกสเต๊ปดานซ์ — การเต้นพื้นบ้านอันโด่งดังของชาวไอริช) และนี่ยังถือเป็นการแสดงดนตรีพื้นบ้านไอริชเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการครั้ง แรกในประเทศไทยอีกด้วย